คลินิกที่มีบริการครบวงจร ศัลยกรรม ปรับรูปหน้า ผิวพรรณ มีมาตรฐาน ได้รับอณุญาติอย่างถูกต้อง
1000/10 the master reflexion @bts onnut

ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร? ช่วยลดไขมันได้จริงไหม?

สำหรับใครที่อยากลดไขมันส่วนเกินสะสมตามจุดต่าง ๆ ของใบหน้าและร่างกาย แต่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง ก็แล้ว หรือพยายามควบคุมการรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพื่อเบิร์นไขมันเก่า และป้องกันการสะสมของไขมันใหม่แล้ว ก็ยังคงมีไขมันส่วนเกินอยู่ดี จะดีกว่าไหม? ถ้ามีวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินเหล่านั้นที่เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น อย่างการ “ฉีดเมโสแฟต” ซึ่งจริง ๆ แล้ว หัตถการนี้คืออะไร สามารถช่วยลดไขมันได้จริงไหม? ตามมาไขข้อสงสัยกันได้ในบทความนี้

การฉีดเมโสแฟตคืออะไร?

เมโสแฟต (Meso Fat) หรือการฉีดเมโสแฟต หมายถึง การฉีดตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น และยังสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ พร้อมกระชับผิวให้เต่งตึงมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย 

ถือเป็นวิธีลดไขมันที่ได้รับความนิยม เพราะเห็นผลเร็ว สามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารเพื่อผลลัพธ์การลดไขมันที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้

ฉีดแฟตกี่วันเห็นผล?

ตัวยาในการฉีดแฟตจะทำให้ไขมันแตกตัวลง และถูกกำจัดผ่านทางการขับถ่ายของเสียของร่างกาย ซึ่งอาจจะไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด แต่จะเริ่มเห็นผลในช่วง 7 วันหลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังฉีด

เมโสแฟตฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

เราสามารถฉีดแฟตเพื่อจัดการไขมันส่วนเกินสะสมใต้ผิวได้หลากหลายบริเวณ ซึ่งมี 6 จุดยอดนิยม ดังนี้

  • ลดแก้มเพื่อทำให้หน้าดูเล็กสมส่วนมากขึ้น
  • ลดเหนียงปรับหน้าเรียวสวย ลดปัญหาคางสองชั้น
  • บริเวณต้นแขน เพื่อจัดการปัญหาแขนใหญ่ ทำให้ต้นแขนดูเรียวเล็กมากขึ้น
  • ลดไขมันนมน้อย หรือไขมันบริเวณใต้รักแร้ 
  • ลดไขมันบริเวณหน้าท้อง และลดพุง 
  • จัดการไขมันส่วนเกินที่ต้นขา พร้อมลดเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม

การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใคร?

โปรแกรมฉีดเมโสแฟตเป็นการลดไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่ต้องการจัดการไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง 
  • ผู้ที่ต้องการลดไขมัน แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ดูดไขมัน และผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้นนาน ๆ
  • ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดในการลดปริมาณไขมันส่วนเกิน
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของการลดปริมาณไขมันที่รวดเร็ว 
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือวินัยในการคุมอาหาร

การฉีดเมโสแฟตไม่เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมปริมาณมาก ๆ
  • ผู้ป่วยโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน หัวใจ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และมะเร็ง
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร 

ผู้ที่มีการติดเชื้อ อักเสบ หรือมีแผลสดบริเวณที่ต้องการฉีดเมโสแฟต ควรรักษาแผลให้หายก่อนแล้วค่อยทำหัตถการนี้

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

  • ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินที่สะสมตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกาย หรือคุมอาหาร
  • สามารถเลือกลดไขมันเฉพาะจุดได้ 
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องอาศัยระยะเวลาพักฟื้น
  • ราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับการดูดไขมัน 
  • ตัวยาไม่ตกค้างในร่างกาย สามารถขับออกทางของเสียได้เลย

ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต

  • ไม่เห็นผลทันที ต้องรอระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • จำเป็นต้องเข้ารับบริการหลายครั้ง และต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ตัวยาบางชนิดอาจทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับได้
  • หากใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดการติดเชื้อ และส่งผลเสียระยะยาวต่อผิวได้

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

การเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตที่ดีจะสามารถลดผลข้างเคียงหลังฉีดที่เป็นอันตรายได้ดี
โดยมีวิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ดังนี้

  • ควรแจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา รวมประวัติแพ้ส่วนผสมต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบก่อน
    เนื่องจากในตัวยาของเมโสแฟตนั้นมีสารสกัดที่หลากหลาย ซึ่งอาจเป็นสารที่คุณแพ้อยู่ก็ได้ 
  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนการฉีด
  • ควรงดกลุ่มยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน รวมถึงวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามิน E น้ำมันตับปลา
    และกิงโกะ อย่างน้อย 2-7 วัน เพื่อป้องกันเลือดออกง่ายขณะที่ฉีดและอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย 
  • งดดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด

การดูแลตนเองเองหลังฉีดเมโสแฟต

เพื่อให้ผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟตเป็นไปตามที่หวังและป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ขอแนะนำให้ดูแลตนเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ อย่างน้อย 1-2 ลิตรต่อวัน เพื่อขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
  • เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้อุณหภูมิผิวสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ ทรีตเมนต์ และเลเซอร์ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายเร็ว และอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ 
  • เลี่ยงการกด นวด คลึงบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต 
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน เช่น ลดของทอด ของมัน ของหวาน เพื่อลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน 
  • หมั่นออกกำลังกายเพื่อเร่งการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มกล้ามเนื้อให้กระชับมากขึ้น

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดเมโสแฟต

หลังจากฉีดแฟตมีผลข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น อาการบวม ปวดระบมเล็กน้อย ซึ่งจะสามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือประมาณ 1-3 วันแล้วแต่บุคคล ขณะเดียวกันบางรายก็อาจมีรอยเขียวช้ำเนื่องจากรอยเข็มได้ ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงใน 7 วัน ทั้งนี้หากมีอาการผิดปกติ เช่น แสบร้อนผิว เจอก้อนไตใต้ผิว เกิดการอักเสบ หรือมีอาการบวมไม่ยุบเกิน 3 วัน แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที

รวม 7 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต

1. ฉีดเมโสแฟตแตกต่างจากการฉีดโบท็อกอย่างไร?

การฉีดแฟตจะเป็นตัวยาที่ฉีดลงไปในผิวบริเวณชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน ขณะที่โบท็อกจะฉีดลงลึกไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ
เพื่อชะลอการทำงานของกล้ามเนื้อ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจ
ฉีดเมโสแฟต หรือโบท็อกนั้น แนะนำว่าควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อประเมินว่าเราเหมาะกับโปรแกรมไหน จะได้รักษาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด

2. สามารถฉีดเมโสแฟตควบคู่กับการฉีดโบท็อกได้หรือไม่?

สามารถทำได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเข้ารับบริการฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันส่วนเกินไปพร้อม ๆ กับฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม หรือลิฟต์ติงกรอบหน้า จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพกัน
ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวยสมส่วนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

3. ฉีดเมโสแฟตอยู่ได้นานไหม?

โดยปกติแล้วผลลัพธ์ของการฉีดเมโสแฟตจะอยู่ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น พฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อน หากไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำก็มีโอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมเพิ่มมากขึ้น

4. ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม?

อาจรู้สึกเจ็บตอนเข็มทิ่มลงสู่ผิว และแสบเล็กน้อยเวลาเดินยา แต่ระหว่างทำส่วนใหญ่จะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยลดอาการเจ็บควบคู่ไปด้วย หรือในบางรายที่กลัวเจ็บมาก ๆ แพทย์อาจแนะนำให้แปะยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดแทน

5. ฉีดเมโสแฟตบวมกี่วัน?

อาการบวมหลังฉีดแฟตถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบบวมลงใน 1-3 วันหลังฉีด หรือในบางรายอาจใช้ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังฉีดเท่านั้น ซึ่งทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวยา ปริมาณยาที่ใช้ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

6. ฉีดเมโสแฟตกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

ในการฉีดเมโสแฟตสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยจะเริ่มเห็นผลในประมาณ 7 วันหลังฉีด และสามารถฉีดได้ซ้ำเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ แต่โดยปกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

7. ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม?

เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ฉีดแฟตกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ และมีประสบการณ์ในการฉีดเท่านั้น เพราะแพทย์จะสามารถประเมินปัญหา คำนวณปริมาณตัวยา และเลือกฉีดในตำแหน่ง หรือชั้นผิวที่ไขมันสะสมอยู่ได้อย่างถูกจุด รวมถึงควรเลือกตัวยาที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่สารสเตียรอยด์ หรือไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ที่อาจส่งผลเสียระยะยาวต่อชั้นผิว และอาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้

สรุป

การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฤทธิ์ตัวยาที่ทำให้ไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวฝ่อตัว และถูกขับออกทางของเสีย ซึ่งเห็นผลการลดลงของไขมันได้ภายใน 1 สัปดาห์หลังทำ และหากทำต่อเนื่องอย่างน้อย 4-5 ครั้งขึ้นไป ก็จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ควรเลือกเข้ารับบริการฉีดแฟตกับแพทย์ผู้ชำนาญการที่สามารถประเมินปัญหาและคำนวณปริมาณการใช้ยาได้อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวังมากที่สุด 

หากคุณกำลังมองหาคลินิกฉีดเมโสแฟตดี ๆ สักแห่งอยู่ล่ะก็ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับ SUPASSARA CLINIC ได้ฟรี โทร. 095-456-0600 หรือ line: @supassara.clinic

Facebook
Twitter
LinkedIn
Print