เบื่อหน่ายกับผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ มาบดบังความมั่นใจของคุณอยู่หรือเปล่าคะ? JUVELOOK โปรแกรมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน สาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง อิ่มน้ำ และกระจ่างใสขึ้น ให้คุณสัมผัสผิวสวยใส ออร่าจับ แบบไม่ต้องพึ่งแอปฯ แต่งรูป ได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังทำ ใครที่อยากรู้จักหัตถการนี้ให้มากยิ่งขึ้น ตามมาดูกันเลย!
Juvelook คืออะไร?
Juvelook คือ สารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดไฮบริด (Hybrid collagen biostimulator) ที่ผสมผสานระหว่าง PDLLA (Poly D, L-lactic acid) และ HA (Hyaluronic acid) ออกฤทธิ์เป็น Skin booster ที่ทั้งกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนตามธรรมชาติในชั้นผิว และเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิดให้ผิวนุ่มเด้ง อิ่มฟูได้ทันทีหลังฉีด ให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และบำรุงผิวให้กระจ่างใสฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
ส่วนประกอบหลักของ Juvelook Skin Booster
- กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid 7.5 mg) ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และเสริมสร้างเกาะป้องกันให้กับผิว ให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น
- กรดพอลิแลคติก (Poly-L-Lactic Acid 42.5 mg) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวกระชับ เต่งตึง อ่อนเยาว์กว่าเคย
JUVELOOK ช่วยอะไรได้บ้าง?
Juvelook สกินบูสเตอร์ ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ยังช่วยเรื่องงานผิวได้อีกหลายประการ ดังนี้
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยตื้น และริ้วรอยรอบดวงตา ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยกระชับรูขุมขน ให้รูขุมขนเล็กลง ผิวดูละเอียด เรียบเนียน ลดปัญหาผิวหน้ามันได้
- ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำและเปล่งปลั่ง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์
- ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยดำ และรอยแดง
- ช่วยเติมเต็มหลุมสิว ลดเลือนรอยหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา และริ้วรอยรอบดวงตา ให้ผิวอิ่มเอิบ เติมเต็ม ริ้วรอยต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น
หลักการทำงานของ Juvelook
Juvelook สกินบูสเตอร์ ทำงานโดยอาศัยคุณสมบัติของสารสำคัญ 2 ชนิดหลัก คือ Hyaluronic Acid (HA) และ Poly-D, L-Lactic Acid (PDLLA) ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยมีหลักการทำงานอยู่ 3 อย่างดังนี้
1. Physical Support (การเติมเต็ม)
โดย HA จะทำหน้าที่เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย และหลุมสิวทันทีหลังการฉีด ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียนยิ่งขึ้น และ PDLLA
จะช่วยเสริมพลังการบำรุงให้ HA ยึดเกาะกับผิวได้ดีขึ้น ไม่เคลื่อนไหวไปจากตำแหน่งที่ฉีดจึงทำให้ผลลัพธ์ของการเติมเต็มคงอยู่ได้นานขึ้น
2. Restoration (การฟื้นฟู)
เมื่อ HA สลายตัวไปตามธรรมชาติแล้ว โดยทั่วไปผิวจะเริ่มกลับสู่สภาพเดิม ที่จะไม่ได้อิ่มฟูเท่าช่วงที่ HA ยังทรงประสิทธิภาพอยู่ แต่สำหรับ Juvelook Skin Booster จะมี PDLLA เริ่มทำงานต่อ โดยกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ จึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ และเรียบเนียนได้ยาวนานยิ่งขึ้น
3. Maintenance (การคงอยู่)
ผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนจะคงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และดูสุขภาพดีแบบสาวเกาหลีได้อย่างยาวนาน
Juvelook เหมาะสำหรับใคร?
Juvelook Skin Booster เป็นหนึ่งในนวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
- ริ้วรอย ทั้งริ้วรอยตื้น ร่องลึก และริ้วรอยรอบดวงตา
- รูขุมขนกว้าง มีปัญหาเป็นสิวง่าย และมีผิวหน้ามัน
- มีหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
- มีผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ เต่งตึง
- มีผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ Juvelook ยังเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้กับบางส่วนของใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่เสียจากแสงแดดหรือมลภาวะ
JUVELOOK ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
Juvelook Skin Booster สามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณ ทั้งบนใบหน้าและร่างกาย เพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ทั่วใบหน้า เพื่อช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน กระจ่างใส และกระชับขึ้น
- ใต้ตา เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ตา ร่องน้ำตา ทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น
- หน้าผาก เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยหน้าผาก ทำให้หน้าผากเรียบเนียนขึ้น
- แก้ม เพื่อช่วยเติมเต็มแก้มให้ดูอิ่มฟู
- ริมฝีปาก เพื่อช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูและชุ่มชื้น
- คาง เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและสมส่วน
- ลำคอ เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยพับที่คอ ทำให้คอดูเรียบเนียนขึ้น
- หลังมือ ซึ่งจะช่วยลดเลือนริ้วรอยและฝ้ากระ
- ข้อศอกและหัวเข่า เพื่อช่วยให้ผิวข้อศอกดูเรียบเนียนขึ้น
- บริเวณที่มีรอยแตกลาย เช่น ท้อง แขน และขา เพื่อให้ผิวแลดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น
Juvelook แตกต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
ทั้ง Juvelook Skin Booster และฟิลเลอร์ ต่างเป็นการรักษาผิวเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ แต่มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน โดย Juvelook จะเน้นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนเอง ซึ่งผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นหลังฉีด และจะคงอยู่ได้ยาวนาน ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์จากภายใน
แต่สำหรับฟิลเลอร์ จะเน้นการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด แต่จะอยู่ได้ไม่นานเท่า Juvelook แล้วจะเลือกทำหัตถการอะไรดี? ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายในการรักษาของคนไข้ ถ้าอยากให้ผิวแข็งแรงจากภายในและผลลัพธ์อยู่ได้นาน ก็จะแนะนำให้เลือก Juvelook Skin Booster แต่ถ้าต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที ก็จะแนะนำให้เลือกฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง
สรุป
Juvelook เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาสวยใส ด้วยคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึง เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และที่สำคัญช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จบทุกปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม
อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการรักษา เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ หากคุณต้องการสอบถามเกี่ยวกับปัญหาผิวเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการของ SUPASSARA CLINIC ได้ฟรี โทร. 095-456-0600 หรือ line: @supassara.clinic