อยากผิวเด็กยาวนาน ทำยังไงดี? คำถามของหลาย ๆ คนที่เริ่มก้าวเข้าสู่วัยเลข 3 และกำลังเผชิญกับปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อยขาดความกระชับอย่างเห็นได้ชัด โดยหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว เติมความอิ่มฟู เรียกคืนผิวอ่อนเยาว์ได้ดีเลยก็คือการทำ Sculptra ซึ่งจริง ๆ แล้วหัตถการนี้คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง? รวมถึงมีข้อมูลอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้!
Sculptra คืออะไร?
โปรแกรม Sculptra เป็นนวัตกรรมช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยอาศัยส่วนประกอบหลักที่เรียกว่า PLLA หรือ Poly-L-Lactic Acid ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตัวแรกของโลกที่ผ่านการรับรองจาก USFDA และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ว่าสามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใต้ชั้นผิวได้มากถึง 66.5% ทำให้หลังทำได้สัมผัสผิวที่ตึงกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ ที่สำคัญมอบผลลัพธ์ผิวเด็กยาวนานถึง 2 ปีเลยทีเดียว
Sculptra ทำงานอย่างไร ?
สำหรับกระบวนการทำงานของ Sculptra นั้นจะอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการสร้างคอลลาเจน ด้วยการส่งสัญญาณให้ Fibroblast หรือสารตั้งต้นในการผลิตเส้นใยคอลลาเจนให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นไปพร้อม ๆ กับกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวผ่านกระบวนการ Macrophage เสริมประสิทธิภาพให้มีการผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นร่วมด้วย
โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ประมาณ 5 วันหลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป จากนั้นผิวจะยังคงได้รับการฟื้นฟูคอลลาเจนตามธรรมชาติอย่างต่อเนื่องถึง 2 ปี
ตัวช่วยหน้าอ่อนวัย Collagen คืออะไร?
คอลลาเจน (Collagen) เป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว เส้นขน ระบบกล้ามเนื้อ ระบบหลอดเลือด รวมถึงกระดูก และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจะมีปริมาณลดลงเรื่อย ๆ และเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ปรากฏเห็นชัดผ่านลักษณะของปัญหาผิว เช่น ผิวแห้งกร้าน มึริ้วรอย ร่องลึก ผิวขาดความกระชับเต่งตึง หรือมีปัญหาผิวที่ดูโทรมไม่สดใสเหมือนอย่างเคย
หน้าที่ของคอลลาเจนที่มีต่อผิวหนัง
- ช่วยคงสภาพผิวที่กระชับเต่งตึง และคงความยืดหยุ่นแก่ผิว
- ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ร่องลึกบนผิว
- ช่วยคงสภาพความชุ่มชื้น และรักษาสมดุลน้ำในผิว เพื่อป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้าน
- ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน
สาเหตุหลักของปัญหาผิวแก่ก่อนวัย
ผิวแก่ก่อนวัย เกิดจากหลายปัจจัย แต่โดยหลัก ๆ คือ การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่เปรียบเสมือนโครงสร้างหลักของผิว ที่จะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และเต่งตึง แต่หากคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวก็จะเกิดริ้วรอย ดูหมองคล้ำ และดูผิวแก่ก่อนวัยในที่สุด
ข้อดีของการฉีด Sculptra
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวอิ่มฟูและมีความกระชับมากขึ้น
- ช่วยกลบร่องลึก ริ้วรอยในจุดต่าง ๆ ของใบหน้าให้ตื้นขึ้นกว่าเดิม
- ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
- ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงในระยะยาว
- สามารถช่วยคงสภาพผิวอ่อนเยาว์ ผิวเด็กได้ยาวนานสูงสุด 2 ปี
Sculptra เหมาะกับใคร ?
โปรแกรม Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่ตรงจุด สามารถดูแลปัญหาผิวได้หลากหลายและล้ำลึกถึงระดับโครงสร้างผิว โดยเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาเส้นริ้วรอยบนผิวหน้าและลำคอเห็นชัด
- ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกบนผิวหน้า แต่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่ต้องการบูสต์ผิวให้มีความเต่งตึง อิ่มฟูมากขึ้น
- ผู้ที่มีสภาพผิวสัมผัสไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการทำหัตถการที่มอบผลลัพธ์ คือ ผิวเด็กยาวนาน โดยไม่ต้องทำบ่อยครั้ง
แนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
ก่อนฉีด Sculptra แนะนำว่าควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม และปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำดังนี้
- งดการทำเลเซอร์ และหัตถการอื่น ๆ ก่อนฉีดผิวเด็กอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- งดการทานยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้ปวด แอสไพริน ไอบูโพรเฟน รวมถึงวิตามิน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E โสม น้ำมันตับปลา กิงโกะ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันเลือดออกง่ายขณะที่ฉีด และอาการบวมช้ำหลังฉีด
- ก่อนฉีด 1-3 วัน งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
- เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้ให้การรักษา รวมถึงแจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติแพ้ยาให้แพทย์ได้ทราบก่อนฉีด
ข้อควรระวังในการฉีด Sculptra
เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจากการฉีด Sculptra แนะนำให้ศึกษาข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- การฉีด Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PLLA รวมถึงสารประเภท Carboxymethylcellulose และ Mannitol
- ผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ ผิวติดเชื้อ หรือแผลสดบริเวณที่ต้องการฉีด แนะนำให้รักษาให้หายดีก่อนแล้วค่อยทำการรักษา
- ผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบบริเวณที่ฉีด ควรรักษาให้หาย หรือปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรไม่ควรฉีด Sculptra
- ผู้ที่เคยมีประวัติแผลเป็นนูน หรือแผลคีลอยด์ ไม่ควรฉีด Sculptra หรือแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra
หลังจากฉีด Sculptra แล้ว เพื่อให้ตัวยาทำงานได้เร็วขึ้น เห็นผลลัพธ์ชัดเจนไวกว่าเดิม และสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้ไปในตัว แนะนำให้ดูแลตัวเองหลังฉีดตามวิธีต่าง ๆ เหล่านี้
- นวดหน้าตามหลัก Triple 5 ตามที่แพทย์แนะนำ คือ นวดหน้าต่อเนื่อง 5 วัน วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายตัวและทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- หลังทำหากมีอาการบวม สามารถประคบเย็นบรรเทาอาการ หรือทายาลดบวม แก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำได้
- เลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณรูเข็มที่ฉีด Sculptra อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- งดทำกิจกรรมที่มีความร้อน หรือทำให้อุณหภูมิผิวสูง เช่น การอบซาวน่า อบไอน้ำ และเลเซอร์ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หากต้องการทำหัตถการอื่น ๆ เพื่อคงสภาพผิวให้อ่อนเยาว์ และมีผิวเด็กยาวนาน แนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการอื่น ๆ หรือปรึกษากับแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนตัดสินใจทำ
หลังการฉีด Sculptra สามารถเห็นผลทันทีเลยหรือไม่ ?
หลังฉีด Sculptra อาจจะไม่เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที แต่จะรู้สึกได้เลยว่าหน้ามีความอิ่มฟูมากขึ้น ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือนหลังฉีด จากนั้นจะคงสภาพผิวที่มีความอ่อนเยาว์ และมีผิวเด็กกว่าเดิมยาวนาน 2 ปี ทั้งนี้ระยะเวลาเห็นผลอาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล
สรุป
โปรแกรม Sculptra เป็นตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่จะทำให้ผิวกลับมากระชับเต่งตึง จัดการปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องลึก และริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างตรงจุด โดยมอบผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์ยาวนานกว่า 2 ปีเลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล
สำหรับใครที่สนใจอยากบูสต์ผิวเด็กด้วยโปรแกรมนี้ แนะนำให้เข้าพบแพทย์กับที่ SUPASSARA CLINIC
เพื่อรับการประเมินสภาพผิว และคำนวณการใช้ตัวยาในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อจะได้ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากที่สุด