หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า? อยากมีผิวที่ดูอิ่มฟู เต่งตึง และเปล่งปลั่ง? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับสารกระตุ้นคอลลาเจน Radiesse ตั้งแต่กลไกการทำงาน ประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมเผยเคล็ดลับในการดูแลผิวหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด ใครที่กำลังเล็งหัตถการนี้อยู่ ห้ามพลาด!
Radiesse คืออะไร?
ก่อนจะไปดูข้อมูลส่วนอื่น ๆ เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Radiesse (เรเดียสซ์) กันก่อน ซึ่ง Radiesse ก็คือ สารเติมเต็มผิวหน้ารุ่นใหม่ที่เป็น Collagen Biostimulator ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้ทันที ให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอ่อนเยาว์ และที่สำคัญสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอย่างต่อเนื่อง ได้ยาวนานถึง 2 ปี
Radiesse จัดอยู่ในกลุ่มสารช่วยเติมเต็มผิวเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์จะเป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยอุ้มน้ำ ให้ผิวอิ่มฟู เติมเต็ม และริ้วรอยจางลง
แต่สำหรับ Radiesse จะผลิตจาก Calcium Hydroxylapatite ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ที่เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างชั้นผิว จึงช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และอิ่มฟูได้ยาวนานกว่าการฉีดฟิลเลอร์
Radiesse ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก รอยย่น หรือริ้วรอยอื่น ๆ บนใบหน้า
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้โครงหน้าดูชัดเจนขึ้น
- ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า สำหรับผู้ที่มีใบหน้าตอบหรือขาดความอิ่มฟู
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น หรือเติมเต็มขมับให้ดูเต็มขึ้น
- ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
หลักการทำงานของ Radiesse
Radiesse หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง จะทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างที่ช่วยรองรับผิว พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยกลไกการทำงานต่าง ๆ ดังนี้
- CaHA จะกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ทำงานมากขึ้น จะช่วยสร้างเป็นโครงสร้างตาข่ายใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและกระชับมากขึ้น
- กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I +150% และ Collagen Type III +130% จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง อ่อนนุ่ม เหมือนได้กลับไปมีผิวเด็กอีกครั้ง
- ช่วยกระตุ้นการสร้าง Proteoglycan ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างคล้ายเจล ทำหน้าที่อุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มฟู ยืดหยุ่น แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิกได้
- กระตุ้นการสร้าง Angiogenesis หรือหลอดเลือดเล็กใต้ชั้นผิว ทำให้ลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น ให้ผิวมีสุขภาพดีและมีเลือดฝาดอยู่เสมอ
Radiesse มีกี่รุ่น และแตกต่างกันอย่างไร?
Radiesse แบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยม คือ
- Radiesse Filler รุ่นดั้งเดิมที่ประกอบด้วย Calcium Hydroxylapatite (CaHA) หรือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเติมเต็มริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
- Radiesse Plus เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Radiesse Filler โดยมีการเพิ่ม Lidocaine ซึ่งเป็นยาชาเข้าไปในส่วนผสม ทำให้ระหว่างการฉีดผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บน้อยลง
Radiesse เหมาะกับใคร?
Radiesse เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ
- ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และรอยย่นต่าง ๆ ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เพื่อช่วยกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและโครงหน้าชัดเจนขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน ซึ่ง Radiesse จะสามารถใช้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น ขมับ แก้ม หรือกราม เพื่อปรับให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้นได้
- แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน โดย Radiesse จะสามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผิวแลดูสุขภาพดีจากภายใน
Radiesse กับ Sculptra ต่างกันยังไร ?
Radiesse เป็น Collagen Biostimulator ที่ส่วนประกอบหลัก คือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกของมนุษย์ โดยเมื่อฉีดเข้าสู่ผิว CaHA จะทำหน้าช่วยเพิ่มจำนวนของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ Proteoglycan ได้โดยตรง ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และกระชับขึ้น
ส่วน Sculptra จะมีส่วนประกอบหลักเป็น Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งจะกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการอักเสบระดับเซลล์ขึ้นอย่างช้า ๆ จึงทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวส่งสัญญาณไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอีกที
Radiesse กับ Sculptra ต่างกันยังไร ?
คุณสมบัติ | Radiesse | Sculptra |
ส่วนประกอบหลัก | CaHA | PLLA |
กลไกการทำงาน | กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์โดยตรง | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยกระบวนการอักเสบ |
ผลลัพธ์ | เห็นผลเร็ว ให้ผิวอิ่มฟู | ค่อยเป็นค่อยไป มอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ |
อายุการใช้งาน | 18-24 เดือน | 2-3 ปี |
เหมาะสำหรับ | ริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย และผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว | ผิวหย่อนคล้อยรุนแรง และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ |
แล้วควรเลือกฉีดตัวไหนดี? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด Radiesse
- ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด พร้อมแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน รวมถึงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อประเมินความเหมาะสมในการทำหัตถการ
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
- ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากบุหรี่จะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดีและส่งผลต่อการสมานแผล
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสำหรับการทำหัตถการ
- งดการทานอาหารเสริม ยา และวิตามิน ที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น แปะก๊วย กระเทียม และวิตามินอี เป็นต้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Radiesse
- ควรงดการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หากมีอาการปวดหรือบวมมาก สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดได้
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพราะการนอนตะแคงอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตำแหน่งได้
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง ร้อน ปวดมาก หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ฉีด Radiesse กี่วันเห็นผล ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่?
หลังฉีด Radiesse คุณจะเห็นผลลัพธ์การเติมเต็มร่องลึกได้ทันที เนื่องจากเนื้อเจลของ Radiesse จะเข้าไปเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และหลังจากฉีดประมาณ 1 เดือน คุณก็จะยิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น ว่าผิวจะดูกระชับ อิ่มฟู และมีสุขภาพดีมากขึ้น เนื่องจาก Radiesse เริ่มกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ และผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ การดูแลผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
สรุป
Radiesse คือ ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์และดูมีสุขภาพดี ด้วยคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน อิ่มฟู และเปล่งปลั่ง มอบผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น หากคุณสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
หรือประเมินสภาพผิว และรับคำแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SUPASSARA CLINIC
โทร. 095-456-0600 หรือ line: @supassara.clinic