คลินิกที่มีบริการครบวงจร ศัลยกรรม ปรับรูปหน้า ผิวพรรณ มีมาตรฐาน ได้รับอณุญาติอย่างถูกต้อง
1000/10 the master reflexion @bts onnut

บอกลาริ้วรอย ให้ผิวอิ่มฟู เปล่งปลั่ง ด้วยสารกระตุ้นคอลลาเจน Radiesse

หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า? อยากมีผิวที่ดูอิ่มฟู เต่งตึง และเปล่งปลั่ง? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับสารกระตุ้นคอลลาเจน Radiesse ตั้งแต่กลไกการทำงาน ประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมเผยเคล็ดลับในการดูแลผิวหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด ใครที่กำลังเล็งหัตถการนี้อยู่ ห้ามพลาด!

Radiesse คืออะไร?

ก่อนจะไปดูข้อมูลส่วนอื่น ๆ เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Radiesse (เรเดียสซ์) กันก่อน ซึ่ง  Radiesse ก็คือ สารเติมเต็มผิวหน้ารุ่นใหม่ที่เป็น Collagen Biostimulator ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้ทันที ให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอ่อนเยาว์ และที่สำคัญสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอย่างต่อเนื่อง ได้ยาวนานถึง 2 ปี

Radiesse  จัดอยู่ในกลุ่มสารช่วยเติมเต็มผิวเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์จะเป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยอุ้มน้ำ ให้ผิวอิ่มฟู เติมเต็ม และริ้วรอยจางลง

แต่สำหรับ Radiesse จะผลิตจาก Calcium Hydroxylapatite ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ที่เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างชั้นผิว จึงช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และอิ่มฟูได้ยาวนานกว่าการฉีดฟิลเลอร์

Radiesse ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก รอยย่น หรือริ้วรอยอื่น ๆ บนใบหน้า 
  • ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้โครงหน้าดูชัดเจนขึ้น
  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า สำหรับผู้ที่มีใบหน้าตอบหรือขาดความอิ่มฟู 
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น หรือเติมเต็มขมับให้ดูเต็มขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น

หลักการทำงานของ Radiesse

Radiesse หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง จะทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างที่ช่วยรองรับผิว พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยกลไกการทำงานต่าง ๆ ดังนี้

  1. CaHA จะกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ทำงานมากขึ้น จะช่วยสร้างเป็นโครงสร้างตาข่ายใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและกระชับมากขึ้น
  2. กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I +150% และ Collagen Type III +130% จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง อ่อนนุ่ม เหมือนได้กลับไปมีผิวเด็กอีกครั้ง
  3. ช่วยกระตุ้นการสร้าง Proteoglycan ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างคล้ายเจล ทำหน้าที่อุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มฟู ยืดหยุ่น แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิกได้
  4. กระตุ้นการสร้าง Angiogenesis หรือหลอดเลือดเล็กใต้ชั้นผิว ทำให้ลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น ให้ผิวมีสุขภาพดีและมีเลือดฝาดอยู่เสมอ

Radiesse มีกี่รุ่น และแตกต่างกันอย่างไร?

Radiesse แบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยม คือ

    1. Radiesse Filler รุ่นดั้งเดิมที่ประกอบด้วย Calcium Hydroxylapatite (CaHA) หรือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเติมเต็มริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
    2. Radiesse Plus เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Radiesse Filler โดยมีการเพิ่ม Lidocaine ซึ่งเป็นยาชาเข้าไปในส่วนผสม ทำให้ระหว่างการฉีดผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บน้อยลง

Radiesse เหมาะกับใคร?

Radiesse เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ

  • ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และรอยย่นต่าง ๆ ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เพื่อช่วยกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและโครงหน้าชัดเจนขึ้น
  • ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน ซึ่ง Radiesse จะสามารถใช้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น ขมับ แก้ม หรือกราม เพื่อปรับให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้นได้
  • แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน โดย Radiesse  จะสามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผิวแลดูสุขภาพดีจากภายใน

Radiesse กับ Sculptra ต่างกันยังไร ?

Radiesse เป็น Collagen Biostimulator ที่ส่วนประกอบหลัก คือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกของมนุษย์ โดยเมื่อฉีดเข้าสู่ผิว CaHA จะทำหน้าช่วยเพิ่มจำนวนของไฟโบรบลาสต์ ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ Proteoglycan ได้โดยตรง ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และกระชับขึ้น

ส่วน Sculptra จะมีส่วนประกอบหลักเป็น Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งจะกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการอักเสบระดับเซลล์ขึ้นอย่างช้า ๆ จึงทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวส่งสัญญาณไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอีกที

Radiesse กับ Sculptra ต่างกันยังไร ?

คุณสมบัติ

Radiesse

Sculptra

ส่วนประกอบหลัก     

CaHA

PLLA

กลไกการทำงาน

กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์โดยตรง

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยกระบวนการอักเสบ

ผลลัพธ์

เห็นผลเร็ว ให้ผิวอิ่มฟู

ค่อยเป็นค่อยไป มอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

อายุการใช้งาน

18-24 เดือน

2-3 ปี

เหมาะสำหรับ

ริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย และผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว

ผิวหย่อนคล้อยรุนแรง และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

แล้วควรเลือกฉีดตัวไหนดี? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด Radiesse

  • ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด พร้อมแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน รวมถึงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อประเมินความเหมาะสมในการทำหัตถการ
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
  • ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากบุหรี่จะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดีและส่งผลต่อการสมานแผล
  • พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสำหรับการทำหัตถการ
  • งดการทานอาหารเสริม ยา และวิตามิน ที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น แปะก๊วย กระเทียม และวิตามินอี เป็นต้น

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Radiesse

  • ควรงดการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หากมีอาการปวดหรือบวมมาก  สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดได้
  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพราะการนอนตะแคงอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตำแหน่งได้
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง ร้อน ปวดมาก หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์

ฉีด Radiesse กี่วันเห็นผล ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่?

หลังฉีด Radiesse คุณจะเห็นผลลัพธ์การเติมเต็มร่องลึกได้ทันที เนื่องจากเนื้อเจลของ Radiesse จะเข้าไปเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และหลังจากฉีดประมาณ 1 เดือน คุณก็จะยิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น ว่าผิวจะดูกระชับ อิ่มฟู และมีสุขภาพดีมากขึ้น เนื่องจาก Radiesse เริ่มกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ และผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ การดูแลผิว และพฤติกรรมการใช้ชีวิต

สรุป

Radiesse คือ ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์และดูมีสุขภาพดี ด้วยคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องลึกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน อิ่มฟู และเปล่งปลั่ง มอบผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น หากคุณสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
หรือประเมินสภาพผิว และรับคำแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด 
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SUPASSARA CLINIC
โทร. 095-456-0600 หรือ line: @supassara.clinic

Facebook
Twitter
LinkedIn
Print