ผิวขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ได้ด้วยการดริปวิตามินผิว
ผิวขาวกระจ่างใสเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ซึ่งการฉีดวิตามินผิวเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ได้รวดเร็วกว่าการบำรุงด้วยครีมทั่วไป ในบทความนี้เลยจะพาคุณไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวิตามินผิว รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนเข้ารับบริการ
พร้อมที่จะมีผิวสวยใสดั่งที่คุณใฝ่ฝันแล้วหรือยัง? มาติดตามรายละเอียดสำคัญกันต่อเลย!
เฉดสีผิว มีกี่แบบ?
การรู้เฉดสีผิวของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะจะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง และเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสีผิว เพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพ โดยเฉดสีผิวหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
- สีผิวอมชมพู (Cool Tone) มักมีเส้นเลือดสีม่วงหรือน้ำเงินที่ข้อมือ และผิวจะดูแดงง่ายเมื่อโดนแสงแดด
- สีผิวอมเหลือง (Warm Tone) มักมีเส้นเลือดสีเขียวที่ข้อมือ และผิวจะดูคล้ำง่ายเมื่อโดนแสงแดด
- สีผิวโทนเขียวมะกอก (Neutral Tone) เป็นสีผิวที่ผสมผสานระหว่าง Cool Tone และ Warm Tone อาจจะดูออกยากสักหน่อย
วิธีเช็กเฉดสีผิวของตัวเองง่าย ๆ
1.ดูสีของเส้นเลือดบริเวณหลังข้อมือ
- เส้นเลือดเป็นสีม่วง/น้ำเงิน แสดงว่าคุณมี Cool Tone
- เส้นเลือดเป็นสีเขียว แสดงว่าคุณมี Warm Tone
- เส้นเลือดสีผสมกัน แสดงว่าคุณอาจมี Neutral Tone
2.สังเกตปฏิกิริยาของผิวเมื่อโดนแสงแดด
- ผิวไหม้ง่าย เป็น Cool Tone
- ผิวคล้ำง่าย อาจเป็น Warm Tone
3.เช็กสีผิวบริเวณหลังใบหู
ซึ่งเป็นจุดที่สัมผัสแสงแดดน้อยที่สุด จะทำให้เห็นสีผิวที่แท้จริงมากที่สุด
การฉีดวิตามินผิวขาว คืออะไร ?
การฉีดวิตามินผิวขาว คือ หัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือด ทำให้วิตามินเหล่านี้ซึมเข้าสู่ผิวได้โดยตรงและรวดเร็วกว่าการรับประทานหรือทาครีมทั่วไป โดยจะช่วยบำรุงผิวได้จากภายในสู่ภายนอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว หรือผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง หรือคนที่พักผ่อนน้อย เพื่อชดเชยวิตามินให้ร่างกาย
ทั้งนี้การฉีดวิตามินผิว จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ตามเฉดสีผิวตามธรรมชาติของแต่ละคน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่ฉีดแล้วจะมีสีผิวขาวอมชมพูเสมอไปนั่นเอง
ประโยชน์ของการดริปวิตามินผิวขาว
- วิตามินที่อยู่ในน้ำเกลือที่ใช้ในการดริป จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้นตามโทนสีผิวของแต่ละบุคคล และช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น
- การฉีดวิตามินผิวขาว จะช่วยให้วิตามินสามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวโดยตรง จึงช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน ให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และช่วยลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวที่เกิดจากมลภาวะและแสงแดด
- ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิวหรือการอักเสบ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่น
ฉีดวิตามินผิวขาว ช่วยให้ขาวขึ้นจริงไหม?
สำหรับคำถามที่ว่าฉีดวิตามินผิวขาว แล้วผิวจะขาวขึ้นจริงหรือเปล่า? คำตอบคือ การฉีดวิตามินผิวสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนสีผิวให้ขาวซีดอย่างผิดธรรมชาติ เพราะในวิตามินที่ฉีดเข้าไป จะอุดมไปสารบำรุงผิวหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ จึงทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น
ทั้งยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง และยืดหยุ่น ผิวจึงดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี อีกทั้งในสูตรวิตามินผิวขาวยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด มลภาวะ และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เมื่อได้รับวิตามินอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ผิวดูขาวและมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นกว่าผิวเดิมนั่นเอง
ฉีดวิตามินผิวขาว ที่ไหนดี?
สุภัสราคลินิก เข้าใจปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงได้คิดค้นสูตรวิตามินผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยมีส่วนผสมหลักที่สำคัญต่อผิว อาทิ
- วิตามินซี (Vit C) ช่วยให้ผิวกระจ่างใส พร้อมลดเลือนจุดด่างดำ
- วิตามินบี (Vit B) ช่วยให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และเนียนนุ่มขึ้น
- อะมิโนแอซิด (Amino) เป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน เข้าช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว
- เอ็น-อะเซทิลซิสเตอีน (NAC) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการเกิดริ้วรอย
- คอลลาเจน (Collagen) ช่วยให้ผิวเต่งตึง อิ่มน้ำ
- กลูตาไธโอน (Glutathione) ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นขึ้น
ซึ่งการฉีดวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง จะช่วยให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้ทันที ทำให้เห็นผลได้เร็วกว่าการทาครีม และสามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างทั่วถึง จึงช่วยแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด
ฉีดผิวขาวบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผลดี?
การฉีดวิตามินผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จำเป็นต้องมีการวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม โดยจำนวนครั้งและระยะเวลาในการฉีดแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปแล้ว แผนการรักษาอาจเป็นไปตามนี้
- ช่วงเริ่มต้น อาจต้องฉีดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเข้าช่วยกู้สภาพผิวเสียให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
- ช่วงบำรุงรักษา ในช่วงที่ผิวเริ่มสุขภาพดีขึ้นแล้ว อาจลดจำนวนครั้งลงเหลือเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ที่ได้
- ในระยะยาว หากต้องการให้ผิวดูดีอยู่เสมอ อาจฉีดเป็นครั้งคราว หรือเมื่อมีปัญหาผิวเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉีดผิวขาว
หากคุณกำลังพิจารณาที่จะฉีดผิวขาว ควรทำความเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- หลังฉีดจะมีรอยเข็มเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- รู้สึกถึงรสและกลิ่นของวิตามิน อาจพบได้ในบางคน ซึ่งถือเป็นอาการปกติ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหากฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้ยาที่ไม่ได้รับอนุญาต
- อาจเกิดอาการแพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของตัวยา เช่น มีผื่นคัน และบวม
- หากมีฟองอากาศปนเปื้อนในเข็มฉีดยา อาจทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้
- อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก และหายใจลำบาก
- การฉีดวิตามินบางชนิดอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดดมากขึ้น
- หากได้รับสารที่เป็นอันตรายในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อการทำงานของไตได้
- ในกรณีที่ร้ายแรง อาจเกิดอาการช็อกหรือเสียชีวิตได้
ข้อควรปฏิบัติหลังการดริปวิตามินผิวขาว เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
การดริปวิตามินเป็นการบำรุงผิวจากภายใน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานแล้ว การดูแลตัวเองหลังการดริปก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ข้อควรปฏิบัติหลังการดริปวิตามิน
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออก และช่วยให้วิตามินที่ได้รับซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงแดด ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวหมองคล้ำ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง หรือหากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิว พร้อมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงผิวพรรณด้วย
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสารนิโคตินและแอลกอฮอล์ จะเป็นตัวการทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น
- หลังการดริปวิตามิน ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
- หากมีอาการผิดปกติหลังการดริป เช่น ผื่นคัน บวม แดง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ข้อห้ามหลังการดริปวิตามิน
- ไม่ควรขัดผิว เพราะการขัดผิวแรง ๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดการอักเสบได้
- ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- ไม่ควรสัมผัสบริเวณรอยเข็มที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
สรุป
หากคุณอยากมีผิวขาวใส สุขภาพดี เปล่งปลั่ง? การฉีดวิตามินผิว อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้คุณมีผิวที่ขาวกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ และสุขภาพดีได้จากภายในสู่ภายนอก
แต่ก่อนตัดสินใจทำ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เช่น SUPASSARA CLINIC ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095-456-0600 หรือ Line: @supassara.clinic