คลินิกที่มีบริการครบวงจร ศัลยกรรม ปรับรูปหน้า ผิวพรรณ มีมาตรฐาน ได้รับอณุญาติอย่างถูกต้อง
1000/10 the master reflexion @bts onnut

เผยเคล็ดลับผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ นาน 9 เดือน ด้วย Skinvive

เผยเคล็ดลับผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ นาน 9 เดือน ด้วย Skinvive

เบื่อจังกับผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส? อยากมีผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ เปล่งปลั่งตลอดเวลาแบบสาวเกาหลี ต้องบำรุงยังไง? นี่เลย Skinvive นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา ผิวของคุณจะดูอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งประกายยาวนานถึง 9 เดือน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก มาสัมผัสประสบการณ์ผิวสวยใสไร้ที่ติไปพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้เลย

SKINVIVE คือ อะไร?

Skinvive (อ่านว่า สกินวิฟฟ์) คือ Skin Booster เทคโนโลยีงานผิวใหม่ล่าสุดจากบริษัท Allergan ที่เป็นบริษัทแม่ของฟิลเลอร์ Juvederm โดย Skinvive จะมีส่วนผสมหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก ขนาดไมโครดรอปเล็ท ซึ่งเป็นโฮยาที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ทำให้ซึมลึกเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาวเนียนละเอียด และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ มอบผลลัพธ์ยาวนานถึง 9 เดือน

Skinvive ทำงานยังไง และช่วยให้ผิวสวยได้จริงไหม?

Skinvive เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความงาม ด้วยคุณสมบัติในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำโกลว์ และเปล่งปลั่งสุขภาพดี ด้วยกลไกการทำงานของ Skinvive ดังนี้

  • ส่วนผสมหลักของ Skinvive คือ กรดไฮยาลูรอนิกที่มีขนาดโมเลกุลเล็กมาก ทำให้ซึมลึกเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย และช่วยอุ้มน้ำได้มากกว่ากรดไฮยาลูรอนิกทั่วไป จึงทำให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของ AQP3 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง
  • อีกทั้ง Skinvive ยังช่วยกักเก็บ Glycerol ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้น

Skinvive ช่วยอะไรบ้าง?

  • ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ทำให้ผิวอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยให้ผิวกระจ่างใสดูเปล่งปลั่ง มีออร่า
  • ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง และมอบผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทำให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น

Skinvive เหมาะกับใคร? ตอบโจทย์ผิวแบบไหน?

Skinvive เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น

  • ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำรุนแรง โดย Skinvive จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้น
  • ผิวขาดน้ำทำให้แต่งหน้าไม่ติด โดย Skinvive จะช่วยให้ผิวฉ่ำโกลว์อิ่มน้ำ จึงแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
  • รูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน Skinvive จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น จึงทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
  • ผิวไม่แข็งแรง แพ้ง่าย โดย Skinvive จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและลดอาการแพ้ได้

Skinvive กับฟิลเลอร์ ต่างกันยังไง?

ถึงแม้ทั้ง Skinvive และฟิลเลอร์จะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม แต่ทั้งสองมีจุดมุ่งหมายและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

Skinvive

  • Skinvive มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และดูอ่อนเยาว์
  • มีโมเลกุลของกรดไฮยาลูโรนิกที่เล็กละเอียดมาก ทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและกระจายตัวได้ดี
  • ไม่ได้มีผลในการเติมเต็มหรือเปลี่ยนรูปหน้า แต่เน้นการปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นจากภายใน
  • เปรียบเสมือนการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างเข้มข้น จึฝช่วยบำรุงผิวจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

ฟิลเลอร์

  • ฟิลเลอร์มีหลายชนิด แต่โดยทั่วไปจะเน้นการเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย หรือเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า เช่น บริเวณแก้ม คาง และจมูก
  • มีโมเลกุลของกรดไฮยาลูรอนิกที่ใหญ่กว่า ทำให้มีความหนืดและคงรูปได้ดี
  • สามารถปรับเปลี่ยนรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ เช่น ช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู
  • ผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าจะเห็นได้ชัดเจนกว่า Skinvive

 

สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าต้องการเน้นบำรุงผิวให้สวยใสจากภายใน แนะนำให้เลือก Skinvive แต่ถ้าต้องการเน้นการปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย ก็ให้เลือกเป็นฟิลเลอร์แทนนั่นเอง

Skinvive ช่วยลดหลุมสิวได้บ้างไหม?

คำตอบคือ ช่วยได้ครับ แต่จะช่วยได้ดีในกรณีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก หรือเรียกว่าหลุมสิวเล็ก ๆ นะครับ เพราะ Skinvive จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น จึงช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้บ้าง

แต่ Skinvive จะไม่สามารถแก้ปัญหาหลุมสิวที่ลึกมากได้นะครับ สำหรับหลุมสิวที่ลึกและชัดเจน จำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง เช่น เลเซอร์ หรือการเติมฟิลเลอร์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเติมหลุมสิวโดยตรงจะดีที่สุดครับ

หน้าลอก แห้งเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด ฉีด Skinvive ช่วยได้ไหม?

สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาหน้าแห้งลอกเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด การฉีด Skinvive ถือเป็นทางออกที่ดีเลยครับ เพราะ Skinvive มีส่วนผสมหลัก คือ กรดไฮยาลูโรนิก (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยม จึงช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของ AQP3 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำเข้าสู่เซลล์ผิว จึงทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้แต่งหน้าติดทน รูขุมขนกระชับ และผิวเรียบเนียน ดูอิ่มน้ำ ฉ่ำโกลว์ แลดูสุขภาพดียิ่งขึ้น

Skinvive ต้องฉีดกี่ cc?

จำนวน cc ที่ใช้ฉีดจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว ผลลัพธ์ที่ต้องการ บริเวณที่ฉีด และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปกติแล้วจะเริ่มต้นที่ 2 cc หรือ 1 กล่อง สำหรับผิวทั่วไปที่ต้องการเพิ่มความฉ่ำวาว โดยที่มีปัญหาผิวไม่เยอะ  และจะแนะนำให้ฉีด 4 cc สำหรับคนที่ผิวแห้งมาก ลอกเป็นขุย รูขุมขนกว้าง หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

หลังการฉีด Skinvive เห็นผลเมื่อไร?

หลังจากฉีด Skinvive ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั่วไปแล้ว คุณจะเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด จะสัมผัสได้เลยว่าผิวชุ่มชื้น มีออร่า  และผิวฉ่ำวาวขึ้น โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดใน 1 เดือนหลังการฉีด และเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างยาวนาน ควรฉีดซ้ำทุก ๆ 6-9 เดือน

ฉีด Juvederm Skinvive แสบไหม?

คำตอบคือ แสบน้อยมากค่ะ หรือบางคนอาจจะแทบไม่รู้สึกเจ็บเลยด้วยซ้ำ เพราะ Skinvive ออกแบบมาให้มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ได้มีส่วนผสมของกรดหรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง อีกทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดอาการเจ็บระหว่างการฉีด และใช้เข็มฉีดที่มีขนาดเล็กพิเศษ จึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อย หรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย

สำหรับคนไข้ท่านใดที่กลัวเจ็บมาก ๆ ทาง SUPASSARA CLINIC เรามีบริการทายาชาฟรีให้ทุกเคส สามารถแจ้งกับแพทย์ผู้ทำหัตถการได้เลย

ฉีด Skinvive อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีด Skinvive หนึ่งครั้ง จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และเรียบเนียนได้นานถึง 9 เดือน  ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว การดูแลผิว และไลฟ์สไตล์ร่วมด้วยนั่นเอง

ฉีด Skinvive ตรงไหนได้บ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว Skinvive มักจะนิยมฉีดบริเวณแก้ม เนื่องจากเป็นบริเวณที่ปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น รูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน หรือผิวไม่เรียบเนียน ที่มักจะปรากฏชัดเจนที่สุด แต่จริง ๆ แล้ว Skinvive สามารถฉีดได้ในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายได้อีก ไม่ว่าจะเป็น

  • บริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม รอบดวงตา และคาง

  • ลำคอ เพื่อให้ผิวลำคอดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียนขึ้น

  • หลังมือ เพื่อลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

ฉีด Skinvive พร้อมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม?

การฉีด Skinvive พร้อมกับหัตถการอื่น ๆ นั้นสามารถทำได้ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการได้โดยตรง

ข้อแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด Skinvive เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Skinvive

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส บีบ หรือขยี้บริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเกิดรอยแดง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมได้ง่ายขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้า เพราะการนวดหน้าอาจทำให้สารที่ฉีดเข้าไปกระจายตัวไม่เท่ากัน
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด จนกว่ารอยแดงจะจางลง เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
  • ปรึกษาแพทย์ทันที หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมากขึ้น ร้อน แดง หรือมีหนอง

สิ่งที่ควรทำหลังฉีด Skinvive

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยให้สาร Hyaluronic Acid ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทาครีมกันแดด แม้ว่าจะอยู่ในร่มก็ตาม เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยที่ทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพได้ง่ายอีกด้วย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนจะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง
  • พักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

สรุป

Skinvive เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวที่ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และอ่อนเยาว์ แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Skinvive สามารถสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับทาง SUPASSARA
CLINIC ได้ ที่นี่เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดี ช่วยแก้ปัญหาผิวให้คุณได้
อย่างตรงจุด และปลอดภัยที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โทร.  095-456-0600 หรือ
Line: @supassara.clinic

Facebook
Twitter
LinkedIn
Print