Rejuran กับ Meso Chanel ตัวช่วยเพิ่มผิวฉ่ำแบบสาวเกาหลี ต่างกันยังไง? ฉีดอันไหนดีกว่ากัน?
เทรนด์งานผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีถือเป็นเทรนด์ความงามที่กระแสแรงแบบไม่มีตก เพราะทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา และวิธีที่จะช่วยเนรมิตผิวให้มีความฉ่ำวาวนั้นก็มีหลายวิธีด้วยกัน แต่ที่นิยมที่สุดต้องยกให้โปรแกรม Rejuran กับ Meso Chanel เลย ซึ่งทั้งสองโปรแกรมนี้จะมีความแตกต่างกันยังไง? หรือฉีดอันไหนถึงจะตอบโจทย์ปัญหาผิวที่กำลังเผชิญอยู่ได้ดีกว่านั้น ตามมาทำความรู้จักไปพรัอม ๆ กันได้เลยในบทความนี้
Rejuran (รีจูรัน) คืออะไร
Rejuran หัตถการความงามที่มีส่วนประกอบหลักเป็นโพลีนิวคลิโอไทด์ (Polynucleotide) หรือ PN สารสกัดจาก DNA อสุจิปลาแซลมอนทื่ถือว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด ฉะนั้นเมื่อนำรีจูรันมาฉีดบำรุงผิวแล้วจึงมีความปลอดภัย เกิดผลข้างเคียงต่ำ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันก็ยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างทั้งคอลลาเจน เส้นใยไฟโบรบลาสต์ ตลอดจนไฮยาลูรอนิกในชั้นผิวเพิ่ม
มากขึ้น เพื่อทำให้ผิวฉ่ำวาวสุขภาพดีอีกด้วย แถมมอบผลลัพธ์ผิวสุขภาพดียาวนานสูงสุด 3-6 เดือนเลยทีเดียว
ผลลัพธ์หลังฉีด Rejuran (รีจูรัน)
- ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวแลดูเต่งตึง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และรอยหลุมสิวได้
- ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
- เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ป้องกันปัญหาผิวแพ้ง่าย และอักเสบง่าย
- ปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ
- ปรับสมดุลความชุ่มชื้น บรรเทาปัญหาผิวแห้งกร้าน มอบผิวอิ่มน้ำฉ่ำวาว
Rejuran (รีจูรัน) เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ฉ่ำวาว แลดูสุขภาพดีให้แก่ผิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวอ่อนแอง่าย อักเสบง่าย หรือผิวบางที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
- ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนกว่าเดิม
Meso Chanel (เมโสชาแนล) คืออะไร
Meso Chanel หัตถการความงามกลุ่ม Skin Booster ที่อัดแน่นไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิกพร้อมด้วยอาหารผิวกว่า
50 ชนิด เช่น วิตามิน A B C E กรดอะมิโน โคเอนไซม์ และกลูต้าไธโอน ซึ่งล้วนช่วยบำรุงผิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความกระจ่างใส และสามารถลดเลือนเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าได้เป็นอย่างดี โดยผลลัพธ์ของการทำเมโสชาแนลนั้น จะเห็นผลค่อนข้างเร็วประมาณ 3 วันหลังฉีดเท่านั้น และหากฉีดซ้ำในทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ จะยิ่งช่วยคงสภาพผิวที่สุขภาพดีได้อย่างยาวนาน
ผลลัพธ์หลังฉีด Meso Chanel (เมโสชาแนล)
- ผิวมีความชุ่มชื้นแลดูอิ่มน้ำสุขภาพดี
- ผิวแลดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับมากขึ้น
- สภาพผิวมีความกระจ่างใส ลดความคล้ำโทรมของผิว
- ริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้าแลดูจางลง
- มอบผิวเนียนใสกว่าเดิม มีออร่า แบบผิวกระจก
Meso Chanel (เมโสชาแนล) เหมาะกับใคร
- ผู้ที่กังวลปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น หรือมีสภาพผิวแห้งกร้าน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ โทรม ไม่โกลว์ใส
- ผู้ที่มีปัญหาเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า และต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอย
- ผู้ที่สภาพผิวไม่เรียบเนียน และมีรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวกระจ่างใสและฉ่ำวาวแบบเร่งด่วน
ฉีด Rejuran กับ Meso Chanel อันไหนดีกว่ากัน
ระหว่าง Rejuran กับ Meso Chanel นั้นมีคุณสมบัติในการดูแลผิวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นฉ่ำวาว เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ตลอดจนปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดีมากกว่าเดิม แต่ก็มีข้อแตกต่างกันตรงที่กระบวนการทำงานของตัวยา รวมถึงระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์ ตลอดจนความถี่ในการฉีดที่ไม่เหมือนกัน
สำหรับใครที่เน้นผลลัพธ์การดูแลผิวที่ทั้งเห็นผลเร็วและผลลัพธ์อยู่ได้นาน การฉีดรีจูรันก็มักจะตอบโจทย์มากกว่า โดยจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการอักเสบ จึงไปกระตุ้นการสร้าง Collagen กระตุ้นการหลั่งของ Growth hormone และสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เองตามกระบวนการทางธรรมชาติ โดยจะช่วยให้ผิวสุขภาพดีได้นานถึง 3-6 เดือนเลยทีเดียว แต่แนะนำให้ช่วงแรกฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกันทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นสามารถฉีดทุก ๆ 6 เดือนได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
และหากที่ใครที่เน้นผลลัพธ์ผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ มีผิวกระจกสไตล์สาวเกาหลี หรืออยากกู้ผิวโทรมขาดความกระจ่างใสแบบเร่งด่วน การฉีดเมโสชาแนลก็จะตอบโจทย์มากกว่า โดยแนะนำว่าในช่วงแรกควรฉีดต่อเนื่อง 3-4 ครั้งทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด จากนั้นหากต้องการคงสภาพผิวที่ฉ่ำวาวกระจ่างใส สามารถกลับมาฉีดทุก ๆ เดือนได้
สรุปความแตกต่าง
คุณสมบัติ | Rejuran | Meso Chanel |
สารสำคัญหลัก | PN (Poly Nucleotide) | HA (Hyaluronic Acid) และวิตามินนาน ๆ ชนิด |
กลไกการทำงาน | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน | เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว |
ผลลัพธ์หลัก | ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง พร้อมลดเลือนริ้วรอย | มอบผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว กระจ่างใส แบบผิวกระจกของสาวเกาหลี |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน | ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวหมองคล้ำ และต้องการให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว |
ฉะนั้นแล้วถ้าถามว่าระหว่าง Rejuran กับ Meso Chanel โปรแกรมไหนดีกว่ากัน? ก็อาจขึ้นอยู่กับลักษณะของงานผิวตามที่แต่ละบุคคลต้องการ ซึ่งขอแนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการประเมินสภาพผิว ปัญหาผิวอย่างละเอียด จะได้รู้ว่าควรเลือกโปรแกรมไหนที่จะสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวได้ตรงจุดมากที่สุด
ฉีด Rejuran กับ Meso Chanel พร้อมกันได้ไหม
แม้ว่าการทำ Rejuran กับ Meso Chanel จะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็ไม่แนะนำให้ฉีดพร้อมกัน หรือมีการผสมยาเพื่อหวังผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าเดิม เนื่องจากส่วนประกอบของทั้งสองโปรแกรมนั้นมีหลากหลายชนิด ถ้าหากเกิดอาการแพ้ หรืออาการผิดปกติใด ๆ ขึ้นมาหลังฉีด แพทย์จะไม่สามารถประเมินได้ว่าเกิดจากตัวยาตัวไหน? และอาจทำให้ยากต่อการหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
ฉะนั้นหากไม่มั่นใจว่าสภาพผิว หรือปัญหาผิวของตัวเองเหมาะกับโปรแกรมไหนระหว่างรีจูรัน หรือเมโสชาแนล ควรเข้ารับการประเมินผิวจากแพทย์จะดีที่สุด
สรุป
โปรแกรม Rejuran กับ Meso Chanel ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มผิวฉ่ำวาวให้งานผิวหน้าแบบสาวเกาหลีได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งสองหัตถการก็มีความแตกต่างกันตรงที่รีจูรัน จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เน้นเสริมสร้างผิวที่แข็งแรง ขณะที่การทำเมโสชาแนลจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นผิวที่ชุ่มชื้นฉ่ำวาวแลดูกระจ่างใสกว่าเดิมในขั้นตอนเดียว ทั้งนี้หากไม่มั่นใจว่าสภาพผิวของตัวเองเหมาะกับโปรแกรมไหน แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับที่ SUPASSARA CLINIC ได้ เพื่อรับการประเมินปัญหาผิวและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้โดยโทร. 095-456-0600 หรือ line: @supassara.clinic เรายินดีให้คำปรึกษาทุกเคสด้วยความจริงใจ เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และคุ้มค่ามากที่สุด